Machine Learning คือ การเรียนรู้ของเครื่อง เป็นสาขาหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่เน้นการพัฒนาอัลกอริธึมและโมเดลที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้จากข้อมูลได้โดยไม่ต้องมีการโปรแกรมอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบผ่านการเก็บข้อมูลและประสบการณ์จากตัวเอง
ประเภทของ Machine Learning
- การเรียนรู้แบบมีผู้สอน (Supervised Learning)
เป็นการสอนโมเดลโดยใช้ข้อมูลที่มีป้ายกำกับหรือ “label” อยู่แล้ว อัลกอริธึมจะถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลเพื่อทำนายผลลัพธ์ เช่น การจำแนกประเภทของภาพ การทำนายยอดขายในอนาคต หรือการทำนายคะแนนสอบ - การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน (Unsupervised Learning)
เป็นการที่อัลกอริธึมต้องเรียนรู้จากข้อมูลที่ไม่มีป้ายกำกับ หรือไม่รู้ล่วงหน้าว่าข้อมูลเหล่านั้นคืออะไร ตัวอย่างคือการจัดกลุ่มข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายกันโดยอัตโนมัติ เช่น การทำ Clustering หรือการค้นหารูปแบบภายในข้อมูล - การเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (Reinforcement Learning)
เป็นการที่อัลกอริธึมจะต้องตัดสินใจผ่านการลองผิดลองถูก โดยจะได้รับรางวัลหรือการลงโทษตามผลลัพธ์ที่ได้ โมเดลนี้มักใช้ในงานที่ต้องการการปรับปรุงต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ให้ทำงานในสภาพแวดล้อมจริง หรือการพัฒนา AI สำหรับเกม
การนำ Machine Learning ไปใช้งาน
- การทำนายและวิเคราะห์ข้อมูลในธุรกิจ (Data Analytics)
- การจดจำภาพในแอปพลิเคชันต่าง ๆ (Image Recognition)
- การแนะนำสินค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Product Recommendation)
- การวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ (Health Data Analytics)
นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้ในระบบอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์, การตรวจจับการโกง และอื่น ๆ อีกมากมาย
Machine Learning สำคัญอย่างไร
Machine Learning เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้จากข้อมูลที่มี การใช้ Machine Learning จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น ทั้งนี้ การเตรียมข้อมูลและการเลือกใช้อัลกอริธึมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ