WordPress คืออะไร ?
WordPress คือระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์หรือ CMS (Contents Management System) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้ง่ายโดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมมาก่อน พัฒนาขึ้นด้วยภาษา PHP และใช้ฐานข้อมูล MySQL โดยมีเครื่องมือที่หลากหลายในการจัดการเนื้อหา เช่น การเขียนบทความ การจัดการรูปภาพ และการจัดการหน้าต่าง ๆ ของเว็บไซต์ และหากใครกำลังหาเว็บไซต์ดีๆ หรือต้องการใช้บริการรับทำ WordPress สามารถติดต่อ 10X Enterprise ได้เลยทันที
WordPress พัฒนารูปแบบจนกลายเป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่
- เว็บ Blog หรือเว็บ Article ที่เป็นศูนย์กลางของเนื้อหาที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวหรือบทวิจารณ์ต่างๆ
- News Sites เว็บข่าวที่จัดเรียง และจัดประเภทข้อมูลข่าวสารตามแท็ก เพื่อความง่ายในการค้นหาและอ่าน
- Sales Page หรือหน้าเว็บขายของที่นำเสนอสินค้า พร้อมรายละเอียดครบถ้วนในหน้าเดียว ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถซื้อสินค้าได้ในไม่กี่คลิก
- E-commerce Site เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่รองรับการขายสินค้าหลากหลายรายการ ด้วยการเพิ่มสินค้าเข้าตะกร้าเพื่อชำระเงิน
- Portfolio พอร์ตโฟลิโอที่รวบรวมสื่อหลากหลาย ทั้งภาพ เสียง วิดีโอ และข้อความ สะท้อนตัวตนและผลงานได้อย่างครบถ้วน
- อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญคือเว็บไซต์องค์กร หรือ Business Sites ซึ่งได้รับความนิยมในการสร้างด้วย WordPress ใช้เพื่อการสื่อสารและแสดงข้อมูลต่างๆ ขององค์กร สร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นทางเลือกของบริษัทชั้นนำทั่วโลก เช่น Walt Disney, The New York Times และ Facebook Newsroom
WordPress มี 2 ประเภทหลัก
1. WordPress.com
- บริการแบบโฮสต์ให้สำเร็จ: WordPress.com เป็นบริการที่โฮสต์เว็บไซต์ให้กับผู้ใช้ โดยผู้ใช้ไม่ต้องจัดการกับโฮสติ้งหรือการดูแลเซิร์ฟเวอร์เอง ทุกอย่างถูกดูแลโดยทีมงานของ WordPress.com
- ฟรีและเสียค่าใช้จ่าย: มีแพ็กเกจให้เลือกทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย แพ็กเกจฟรีจะมีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น ไม่สามารถติดตั้งปลั๊กอินหรือปรับแต่งธีมเองได้ และมีการแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเว็บไซต์ง่าย ๆ และไม่ต้องการจัดการโฮสติ้งด้วยตัวเอง เช่น เว็บไซต์บล็อกส่วนตัวหรือเว็บไซต์ขนาดเล็ก
2. WordPress.org
- ซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส: WordPress.org เป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งเองบนโฮสติ้งที่จัดการเอง ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่ารุ่นที่ให้บริการบน WordPress.com
- ความยืดหยุ่นสูง: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้เต็มที่ ตั้งแต่การติดตั้งปลั๊กอิน ธีมต่าง ๆ ไปจนถึงการปรับแต่งโค้ดตามความต้องการ
- ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด: แต่ผู้ใช้จะต้องเสียค่าโฮสติ้งและชื่อโดเมนเอง
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการควบคุมเว็บไซต์อย่างเต็มที่ เช่น ธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ หรือเว็บไซต์ที่ต้องการการปรับแต่งพิเศษ
หากคุณต้องการความง่ายและไม่ต้องการจัดการโฮสติ้ง WordPress.com อาจเหมาะสม แต่ถ้าคุณต้องการควบคุมทุกด้านของเว็บไซต์ WordPress.org เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ข้อดีของ WordPress
- ใช้งานง่าย: ผู้ที่ไม่มีความรู้ทางเทคนิคสามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้ผ่านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
- มีปลั๊กอินและธีมให้เลือกมากมาย: WordPress มีปลั๊กอินและธีมที่สามารถติดตั้งเพื่อเพิ่มฟังก์ชันและปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก
- ฟรีและโอเพ่นซอร์ส: WordPress เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่เปิดให้ใช้งานฟรี และมีชุมชนขนาดใหญ่ที่ให้การสนับสนุนและพัฒนาอยู่เสมอ
- รองรับการทำ SEO: WordPress มีเครื่องมือช่วยในการปรับแต่ง SEO ทำให้เว็บไซต์มีโอกาสสูงขึ้นในการติดอันดับบน Google
- รองรับหลายภาษา: WordPress มีปลั๊กอินและธีมที่รองรับการสร้างเว็บไซต์ในหลายภาษา
- ความยืดหยุ่น: สามารถใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์ได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่บล็อกส่วนตัวจนถึงร้านค้าออนไลน์หรือเว็บไซต์องค์กร
ข้อเสียของ WordPress
- ความปลอดภัย: เนื่องจาก WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้เยอะ จึงเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากแฮ็กเกอร์ ผู้ใช้ต้องระวังในการใช้ปลั๊กอินและธีมที่ปลอดภัย
- ประสิทธิภาพ: หากติดตั้งปลั๊กอินมากเกินไป อาจทำให้เว็บไซต์โหลดช้าลง และมีปัญหากับการจัดการทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์
- ต้องอัปเดตอยู่เสมอ: ผู้ใช้ต้องทำการอัปเดต WordPress, ธีม และปลั๊กอินเพื่อป้องกันปัญหาด้านความปลอดภัยและการทำงานผิดพลาด
- จำเป็นต้องพึ่งปลั๊กอินสำหรับฟังก์ชันพิเศษ: หากต้องการเพิ่มฟังก์ชันที่ซับซ้อน จะต้องติดตั้งปลั๊กอินเพิ่มเติม ซึ่งบางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายหรือทำให้เว็บไซต์ซับซ้อนขึ้น
- การปรับแต่งขั้นสูงต้องมีความรู้: แม้ว่า WordPress จะใช้งานง่าย แต่การปรับแต่งเชิงลึก เช่น การแก้ไขโค้ด หรือการสร้างฟีเจอร์เฉพาะ อาจต้องมีความรู้ด้านเทคนิค
WordPress จึงเป็นเครื่องมือที่ดีและสะดวกในการสร้างเว็บไซต์ แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งาน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ
ควรเลือกใช้บริการ WordPress แบบไหนดี?
สำหรับผู้ที่สนใจสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress และค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต อาจพบความสับสนระหว่าง WordPress.org และ WordPress.com ซึ่งทั้งสองเครื่องมือนี้แตกต่างกันอย่างมาก
- WordPress.com เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์แบบสำเร็จรูปที่จัดเตรียมการออกแบบมาให้แล้ว คล้ายกับ Tumblr หรือ Blogger โดยผู้ใช้สามารถเลือกธีมที่มีให้และปรับแต่งสีได้บ้าง แต่ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งนั้นมีจำกัด ข้อดีคือไม่จำเป็นต้องจดโดเมนหรือเช่าโฮสติ้งเอง เว็บไซต์ที่ได้จะลงท้ายด้วย “.wordpress.com” เว้นแต่ว่าผู้ใช้ยินดีจ่ายเงินเพื่ออัปเกรด
- WordPress.org เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูงกว่า WordPress.com อย่างมาก ผู้ใช้สามารถปรับแต่งทุกองค์ประกอบของเว็บไซต์ได้ตามต้องการ ตั้งแต่ธีมที่สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมหรือสร้างเอง ไปจนถึงปลั๊กอินที่เพิ่มฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ได้หลากหลาย อย่างไรก็ตาม WordPress.org จะต้องจดโดเมนและเช่าโฮสติ้งเอง ทำให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของเว็บไซต์แบบเต็มตัว 100%
สรุป ทำไม WordPress ถึงได้รับความนิยมสูง
WordPress ถือเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการสร้างและจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ เนื่องจากใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการเขียนโค้ดก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ และยังเหมาะสำหรับการทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
โดยเฉพาะ WordPress.org ที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการในการสร้างเว็บไซต์แบบมืออาชีพ การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองในยุคปัจจุบันยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจและสินค้า ทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นยิ่งขึ้นในสายตาของผู้เยี่ยมชม
